“ยีนส์ในอนาคตไม่เพียงแค่ ใส่สบาย เท่านั้นแต่ต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย”

 

“BEARBEARY” กางเกงยีนส์ในฝันที่มีอยู่จริง จับมือห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เปิดตัวแฟชั่นโชว์ส่งท้ายปลายปีอย่างยิ่งใหญ่กับ Bearbeary Reconfident ปรากฏการณ์ด้านแฟชั่นชุดยีนส์ที่พร้อมให้เหล่าแฟชั่นนิสต้าค้นหาคีย์ไอเท็มหลักที่จะทำให้ทุกๆ วันของคุณเท่ห์ มีสไตล์โดดเด่นเกินใคร มาพร้อมกับดีไซน์และ Signature ตอกย้ำความเป็น comforable denim “ตัวเลือกแรกของยีนส์” ด้วยเอกลักษณ์ความสวมใส่สบายที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยการนำเส้นใสที่นำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งเส้นใย Lycra , T-400,  โดย LYCRA® เส้นใยที่รู้จักกัน ในระดับสากลดีว่า มีความยืดหยุ่นเป็นพิเศษ เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงและคงทนมาก มีความยืดหยุ่นสูง ยืดได้ดีกว่าเส้นใย SPANDEX ปกติถึง 500% อีกทั้งยังโดดเด่นในเรื่องของ FITTING และ CUTTING ที่ตอบโจทย์ความสบายสำหรับผู้ที่สวมใส่ ทำให้ bearbeary ติดท็อป 10 ของแบรนด์ยีนส์ที่ทำยอดขายสูงสุดให้กับทาง เซ็นทรัล และ โรบินสัน หลักจากที่สร้างกระแส ยีนส์ใส่สบาย และยีนส์ในฝันทางช่องทาง Online มาแล้ว

งานนี้ยังได้ Family Icons อย่างครอบครัวตันจรารักษ์ นำทีมด้วย บีม กวี และออย อฏิพรณ์ จูงสองแฝดพี่ธีร์และน้องพีร์ พร้อมด้วยเหล่านางแบบชั้นนำอีกคับคั่ง และยังแอบเซอร์ไพร้ส์ด้วยหมัดเด็ดอย่าง บอส ชัยกมล หรือ บอส ckm ที่สวมใส่ผ้า Cotton คุณภาพสูง 100% พรีเซนต์ได้ถึงความสบาย นุ่ม น้ำหนักที่พอเหมาะพอดี เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแฟชั่นที่ดูดีและทนทานตลอดทั้งวัน เรียกเสียงกรี๊ดจากด้อมดังสนั่นลั่นลานโปรโมชั่นชั้น 1 หน้าโรบินสัน ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพระราม 9 เลยทีเดียว

สินค้าที่ผลิตจากผ้าโมดอล (Modal)

วัตถุดิบของเส้นใยโมดอลผลิตจากไม้พุ่มในยุโรป ซึ่งทำเป็นสารละลายหัวแม่มือผ่านกระบวนการปั่นพิเศษ เป็นเส้นใยเซลลูโลสชนิดหนึ่ง จึงอยู่ในเส้นใยเซลลูโลส เช่น ฝ้าย และเป็นเส้นใยธรรมชาติบริสุทธิ์ผลิตภัณฑ์โมดอลส่วนใหญ่จะใช้ในการผลิตชุดชั้นในเนื่องจากมีความนุ่มและดูดซับความชื้นได้ดีเยี่ยม แต่เนื้อผ้ามีความตรงต่ำ ดูดซับบความชื้นได้ดีกว่าcotton 50% ผ้าถักของ Modal ส่วนใหญ่ใช้ทำชุดชั้นใน อย่างไรก็ตาม โมดัลมีความมันวาวสีเงิน สามารถย้อมได้ดีเยี่ยม และสีสดใสหลังการย้อม เราจึงได้นำมาผลิตเป็น แจ็คเก็ต หมวก และกางเกงขาสั้นใน Concept “flower jungle” ป่าของพรรณไม้ ที่โดนใจผู้หญิงหวานที่ชอบสวมใส่เสื้อผ้าที่ใส่สบาย

Tencel เป็นเส้นใยทดแทนจากธรรมชาติบริสุทธิ์ จากเยื่อไม้ธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ที่สกัดจากยูคาลิปตัสเป็นวัตถุดิบ และเป็นที่รู้จักในนาม “ความฝันของเส้นใยแห่งศตวรรษที่ 21″ ลักษณะ: นุ่มกว่าผ้าไหม; ดูดซับความชื้นได้ดีกว่าผ้าฝ้าย เบาและง่ายต่อการล้างและแห้ง โดยเราได้นำ Tencel มาเป็นวัตถุดิบในคอลเลคชั่นพิเศษ ฉลองครบ 5 ปี bearbeary
เป็นนวัตกรรมแฟชั่นที่ผสมผสานสไตล์ ความสบาย และความยั่งยืนเข้าด้วยกัน วัสดุ Tencel Eco Fiber Soft Comfort ช่วยให้มั่นใจได้ว่าคุณจะรู้สึกดีเมื่อสวมใส่ ในขณะที่ ลายโมโนแกรมเป็นการเพิ่มเอกลักษณ์ในตู้เสื้อผ้าของคุณ การเลือกเสื้อผ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั้นง่ายกว่าที่เคยด้วย

หลังจากที่ผ่านมา BEARBEARY จับมือห้างโรบินสัน นัมเบอร์วันยีนส์สเดสติเนชั่น คนรักยีนส์เตรียมหายว้าวุ่นกันได้เลย!ผนึกกำลังกว่า 30 พันธมิตร แบรนด์ยีนส์ทั้งไทยและต่างประเทศ จัดบิ๊กแคมเปญสุดยิ่งใหญ่แห่งปี “ROBINSON SUPER JEANS #SALESATION” (โรบินสัน ซูเปอร์ ยีนส์ #เซลเซชั่น) สร้างปรากฏการณ์ยีนส์ฟีเวอร์แบบตะโกนกับแฟชั่นรันเวย์สุดปัง! ในคอนเซ็ปต์ ‘JEANS LAB’ เพื่อให้คนรักยีนส์ได้อัปเดตเทรนด์ยีนส์แบบใหม่ สับๆ แบบจัดเต็ม! โชว์ไอเดียการออกแบบ และดีไซน์ที่แหวกแนว สู่สายตาชาวโลก

ด้าน “คุณวนิศา ดวงจินดา” ผู้ก่อตั้งแบรนด์ผู้บริหารหญิงและนักออกแบบ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากที่ Bearbeary เราจะโดดเด่นด้านดีไซน์แล้วยังรักโลกอีกด้วย ” ตั้งแต่ต้นปี  2022 ทาง bearbeary ได้เริ่มมองหาวัตถุดิบคุณภาพ ที่เน้นเรื่องความยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มองไปที่เส้นใยจากธรรมชาติ อาทิ Tencel ,Modal, ซื่งผ้าของเราในการซักแต่ละครั้งใช้น้ำน้อยมาก และกระบวนการ Organic Solvent เป็นกระบวนการปั่นด้ายที่สะอาดไม่มีสารพิษ ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม มีคุณสมบัติที่นุ่ม ลื่น ยืดหยุ่นกระชับ คุณสมบัติที่นุ่มลื่น ซึ่งวันนี้ในการออกแบบโปรดักชั่นทางแบรนด์ก็เน้นการออกแบบใช้ซ้ำได้ อย่างเก้าอี้ที่เรานั่งภายในงานสามารถพับและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งการจัดงานในปีนี้มาจากความตั้งใจที่จะส่งต่อทั้งความรู้ แรงบันดาลใจ ตลอดจนการทำให้แนวคิด Sustainability เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของเราทุกคน bearbeary จึงพิถีพิถันในทุกกระบวนการ นับตั้งแต่การเลือกสถานที่ อาหาร วัสดุตกแต่ง รวมถึงออกแบบกิจกรรมที่ให้ทุกคนได้เรียนรู้เรื่องความยั่งยืนด้วยความสนุกสนาน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ปีนี้เรื่อง Sustainability ยืนหนึ่ง เป็นกลยุทธ์ที่ทุกธุรกิจต้องใส่ใจ”

คุณวนิศา กล่าวต่อว่า จากแผนงานที่วางไว้ ถึงสิ้นปีนี้มั่นใจว่ายอดขายจะดีกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนปีหน้าพร้อมอัดงบลงทุนเพิ่มเป็นเท่าตัว เน้นเรื่องนวัตกรรม พัฒนาสินค้าใหม่ๆ ที่แตกต่างจากยีนส์ที่มีทั่วไปจำหน่าย

รวมถึงเน้นสินค้าด้านความยั่งยืนมากยิ่งขึ้นถึง 50% เนื่องจากมองว่าเป็นเทรนด์โลก และช่วยประหยัดทรัพยากรโลกจากกระบวนการผลิตวัตถุดิบรักษ์โลก สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันที่หันมาใส่ใจในเรื่องนี้

“เราถือเป็นแบรนด์สินค้ายีนส์อันดับต้นๆ ที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ซึ่งมองว่าจะเริ่มจากจุดเล็กๆ แล้วเพิ่มจำนวนมากขึ้นเพื่อทำให้แบรนด์มีความเป็นพรีเมียม โดยที่ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 2,500 บาท จากสินค้าปกติราคา 1,800 บาท”

รวมถึงเจาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 18-25 ปีมากขึ้น จากปัจจุบันกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่ม B ขึ้นไป ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป รวมถึงตั้งเป้าสร้างยอดขายขึ้นเป็นท็อป 5 ของกลุ่มแบรนด์ยีนส์ที่ขายในโรบินสันด้วย

สำหรับความสำเร็จของ Bearbeary ในปีนี้พบว่า หลังจากทำตลาดมากขึ้น ตอนนี้ยอดขายเติบโตขึ้นมากๆ ตั้งแต่โควิดเป็นต้นมา โดยได้รับการตอบรับที่ดีมาตลอด อีกทั้งการบอกต่อแบบปากต่อปาก เป็นผลให้ Bearbeary เป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งลูกค้าที่ซื้อ จะเป็นกลุ่มมีกำลังซื้อสูง และมีฐานผู้ติดตาม bearbeary ค่อนข้างมาก สังเกตจากยอดซื้อต่อต่อบิลจะมีตั้งแต่ 8,000-10,000 บาทขึ้นไป.